🧐 มีอะไรที่ต้องเรียนรู้บ้าง
ถ้าต้องการทำสาย UX/UI Design

• UX Design Concept (แนวคิดการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้): การสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่ตอบสนองต่อความต้องการและประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
• Visual Design Principle (หลักการออกแบบภาพ): การใช้สี, รูปทรง, การจัดวาง, และองค์ประกอบศิลปะอื่นๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูด
• UX Writer: เน้นการเขียนข้อความในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ เช่น คำอธิบายปุ่มและ ข้อความช่วยเหลือไปจนถึงข้อความแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจง่ายและช่วยปรับปรุงประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้น
• UI Design Concept (แนวคิดการออกแบบอินเทอร์เฟซผู้ใช้): การออกแบบอินเทอร์เฟซที่ทั้งสวยงามและใช้งานง่าย, รวมถึงการจัดวางปุ่ม, เมนู, และองค์ประกอบการโต้ตอบ
• Anatomy of UI Design Component (โครงสร้างขององค์ประกอบการออกแบบ UI): การเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและองค์ประกอบต่างๆ ใน UI เช่น ปุ่ม, แถบเครื่องมือ, และไอคอน
• Usability (การใช้งานได้จริง): การประเมินและการทดสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้งานทุกคน
• Web Design (การออกแบบเว็บไซต์): การออกแบบเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงประสบการณ์ผู้ใช้และเทคนิคการออกแบบ
• Mobile Application Design (การออกแบบแอปพลิเคชัน): การออกแบบแอปพลิเคชันให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ 

• Interaction Design (การออกแบบการปฏิสัมพันธ์): การออกแบบวิธีที่ผู้ใช้โต้ตอบกับผลิตภัณฑ์หรือบริการไปจนถึงปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีขึ้น
• Design System: การสร้างมาตรฐานหรือระบบการออกแบบ Interface ให้ไปในทางเดียวกัน เช่น ฟอนต์ สี ปุ่ม เงา หรือ ภาพที่นำมาใช้ เป็นต้น
• Data Analytics for UX Design: การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้และปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน
• Figma in Action: การใช้งาน Figma เครื่องมือออกแบบ UI/UX ยอดนิยม สำหรับสร้างและทดสอบโปรเจกต์การออกแบบ
• Psychology in UX Design (จิตวิทยาในการออกแบบ UX): การใช้จิตวิทยาเพื่อเข้าใจและตอบสนองความต้องการทางอารมณ์และพฤติกรรมของผู้ใช้
• User Test (การทดสอบผู้ใช้): กระบวนการทดสอบผลิตภัณฑ์หรือโปรโตไทป์กับกลุ่มผู้ใช้จริงเพื่อรับข้อเสนอแนะและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
• UX/UI Design Portfolio:รวบรวมผลงานการออกแบบ UX/UI ของนักออกแบบเพื่อแสดงความสามารถและประสบการณ์ในการทำงาน
• User Research Process (กระบวนการวิจัยผู้ใช้): การสำรวจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ เพื่อเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของพวกเขา

• Information Architecture and Design (การออกแบบสถาปัตยกรรมข้อมูล): การจัดระเบียบและการสร้างโครงสร้างของข้อมูลในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้ใช้หาข้อมูลที่ต้องการได้ง่าย
• UX/UI Analytics Case Study: การศึกษากรณีศึกษาการใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสบการณ์การใช้งานและอินเทอร์เฟซผู้ใช้
• Agile Project Management for UX/UI Designer: การพัฒนาโครงงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยกระบวนการแบบ Agile ในมุมของ UX/UI Designer

คงไม่มีใครอยากเสียเวลาลองผิดลองถูกเองเป็นปี ๆ หรือ ใช้เวลาสาม สี่ปีในการเรียนในระบบ แล้วพอทำงานจริง เจอเคสจริง เจอปัญหาจริงแล้วไปต่อไม่เป็นจริงไหมครับ ? แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ คือ “ปัญหาสุดคลาสสิก” ที่ทำให้นักศึกษาจบใหม่หลายท่าน ทั้งที่จบสายตรงด้านไอที และ จบไม่ตรงสายแต่อยากกระโดดมาทำ มักจะเจอ

ซึ่งนอกจากปัญหาเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกหลายปัญหา เช่น ไม่มีพื้นฐานมาก่อน ทำให้เวลาไปลงคอร์สเรียนบางคอร์ส ก็จะไม่เข้าใจเนื้อหาบางส่วน ทำให้ต่อยอดจากเรื่องที่เรียนไม่ได้, การที่กระโดดไปใช้เครื่องมือเลย โดยไม่เข้าใจจุดเริ่มต้นว่ามันมีที่มาอย่างไร ทำให้พัฒนาเป็นผลงานของตัวเอง หรือ นอกจากบทเรียนไม่ได้ เรียกง่าย ๆ คือ ทำได้แค่ “คัดลอก ออกแบบตาม แก้ไขบางส่วนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปนิดหน่อย”

แต่ในคลาสนี้จะไม่ใช่แบบนั้นครับ เพราะในหลักสูตร Road to UX/UI Design Bootcamp นี้เราจะปูพื้นฐานใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นจาก 0 ในช่วง 3 สัปดาห์แรกแบบเต็ม ๆ และ เราจะมีแบบฝึกหัดให้ท่านได้ลองทำตาม พร้อมทั้งยกเคสตัวอย่างสถานการณ์จริง เพื่อให้ท่านได้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น

“คลาสนี้คือคลาสเรียนจริงจัง ที่คุณต้องมีเวลาทำตาม อย่างน้อยเข้าเรียน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง (วันละ 3 ชั่วโมง) และ มีเวลาในการทำแบบฝึกหัดสัปดาห์ละ 4 – 8 ชั่วโมงโดยประมาณ” ถ้าทำทั้งหมดนี้ได้ด้วยตัวเอง การเรียนให้จบ และ เริ่มต้นในสายงานก็ไม่ยากเกินเอื้อมครับ

ดังนั้นแล้ว คลาสนี้ จะไม่เหมาะกับท่านที่อยากได้ทางลัดโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่เราจะช่วยย่อย สรุป ทำให้เนื้อหาทั้งหมดกระชับ ง่ายที่สุด และ สร้างโจทย์ แบบทดสอบให้ท่านได้ลองฝีมือด้วยตนเอง จนไปถึง จุดเริ่มต้นของอาชีพนี้ได้นั่นเอง