Skip to main content
0

สรุปก่อนเริ่ม

Bootstrap ถือว่าเป็น framework ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้การพัฒนาเว็บไซต์ของง่ายและมีความสวยงามทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วย class และ components ที่มีให้เลือกใช้ได้อย่างง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นในการพัฒนาเว็บไซต์

ในส่วนของการสร้างหน้าเว็บที่มีลักษณะ Responsive นั้น Bootstrap ก็ได้มีเครื่องมือที่กำหนดแต่ละขนาดของหน้าจอไว้เพื่อให้แสดงข้อมูลได้อย่างเหมาะสม ส่วนนี้เรียกว่า Breakpoints ซึ่งเป็นหนึ่งใน Layout ที่มักจะนิยมใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์แบบ Responsive

แต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ Breakpoint ให้เรามาทำความรู้จักกับหน้าเว็บที่เป็น Responsive กันก่อน

Responsive Website คือ

Responsive website นั้นจริงๆ ก็คือเว็บไซต์ที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถปรับได้ตามขนาดของหน้าจออุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้อยู่นั่นเอง โดยที่เว็บไซต์นี้จะต้องแสดงผลได้อย่างถูกต้องและสวยงาม ไม่ว่าจะแสดงบนคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, หรือบนมือถือ

สิ่งสำคัญที่ Responsive จะต้องมี คือ

  • Media Queries: ใช้ CSS media queries เพื่อปรับแต่งสไตล์ของเว็บไซต์ในขณะที่ขนาดของหน้าจอเปลี่ยนแปลง ตัวอย่าง Code ดังนี้
@media screen and (max-width: 768px) {
  /* Styles for screens with a maximum width of 768 pixels */
}
  • Flexible Grid Systems: ใช้ระบบกริดที่ยืดหยุ่นได้ (flexible grid system) เพื่อให้เนื้อหาของเว็บไซต์ปรับตัวได้ตามขนาดของหน้าจอ
  • Flexible Images and Media: การใช้รูปภาพและสื่ออื่น ๆ ที่สามารถยืดหยุ่นได้, เพื่อไม่ให้มีการตัดข้อมูลหรือส่วนสำคัญของรูปภาพ.
  • Viewport Meta Tag: การใช้ meta tag เพื่อระบุขนาดของ viewport และปรับสเกลของเว็บไซต์
<meta name="viewport" content="width=device-width, initial-scale=1.0">
  • Progressive Enhancement: การให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้, โดยให้ฟังก์ชันพื้นฐานทำงานได้ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มเติมความสวยงามและความสามารถ

สรุป : Responsive website ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการของเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลาบนโลกนี้ และแสดงตามขนาดหน้าจอได้อย่างเหมาะสม

แล้ว Breakpoint คืออะไรหล่ะ

Breakpoints ถือเป็นเครื่องมือในการจัด Layout ที่มีการกำหนดของขนาดแต่ละอุปกรณ์ทั่วไปด้วย Bootstraps framework ไว้ให้แล้ว มีทั้งหมด 6 Breakpoinst ดังนี้

BreakpointClass infixDimensions
Extra SmallNone<576px
Smallsm>=576px
Mediummd>=768px
Largelg>=992px
Extra Largexl>=1200px
Extra extra largexxl>=1400px

ในบทความนี้ ผู้เขียนจะยกตัวอย่างการเขียน HTML และ CSS ที่มีการใช้งาน Breakpoint เพื่อมากำหนด Container ให้แสดงตามขนาดอุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอมากกว่าหรือเท่ากับ 768 px หรือ Breakpoint : Medium

1. เริ่มต้นการใช้ Bootstrap framework

ในการเริ่มต้นใช้ Bootstrap เราจะต้องเพิ่มลิงก์ไปยังไฟล์ CSS ของ Bootstrap ในส่วน <head> ของหน้า HTML ด้วย tag link และ tag script

<!doctype html>
<html lang="en">
  <head>
    <meta charset="utf-8">
    <meta name="viewport" content="width=device-width, initial-scale=1">
    <title>Bootstrap demo</title>
    <link href="https://cdn.jsdelivr.net/npm/bootstrap@5.3.2/dist/css/bootstrap.min.css" rel="stylesheet" integrity="sha384-T3c6CoIi6uLrA9TneNEoa7RxnatzjcDSCmG1MXxSR1GAsXEV/Dwwykc2MPK8M2HN" crossorigin="anonymous">
  </head>
  <body>
    <h1>Hello, world!</h1>
    <script src="https://cdn.jsdelivr.net/npm/bootstrap@5.3.2/dist/js/bootstrap.bundle.min.js" integrity="sha384-C6RzsynM9kWDrMNeT87bh95OGNyZPhcTNXj1NW7RuBCsyN/o0jlpcV8Qyq46cDfL" crossorigin="anonymous"></script>
  </body>
</html>

สามารถศึกษาเพิ่มเติมการติดตั้ง Bootstrap เพิ่มเติมได้จาก https://getbootstrap.com/docs/5.3/getting-started/introduction/

2. ใช้ Class ของ Bootstrap framework

Bootstrap มี class ที่นำมาใช้ในการจัดรูปแบบหน้าเว็บได้ง่ายๆ ตามตัวอย่าง

<div class="container">
  <h1 class="display-4">Welcome to Our Website</h1>
  <p class="lead">Discover amazing things with Bootstrap!</p>
  <button class="btn btn-primary">Get Started</button>
</div>

3. สร้าง Layout แบบ Responsive

ใช้ Layout grid ในการกำหนดขนาดการแสดงตามหน้าจอที่เป็น Breakpoint : Medium

<div class="container">
        <div class="row">
          <div class="col-md-6">
            <p>Test Medium screen</p>
          </div>
          <div class="col-md-6">
            <p>Test Medium screen</p>
          </div>
        </div>

เราจะได้หน้าจอลักษณะนี้เมื่อความกว้างเท่ากับ 1200px เพราะจาก Code ที่ระบุไปใน class col ให้กำหนดเป็น 6 คอลัมน์ เมื่อหน้าจอมีขนาดมากกว่าหรือเท่ากับ 768px

แล้วถ้าไม่มากกว่าหรือเท่ากับ 768px ล่ะ รูปแบบหน้าจอจะแสดงขนาดตามตัวอย่าง ดังนี้

แสดงข้อมูลตามขนาดหน้าจอที่น้อยกว่า 768 px

นอกจากนี้ Bootstrap ยังมี Utilities class ต่างๆให้เลือกใช้ได้อย่างสะดวกมากขึ้นในการพัฒนาเว็บไซต์

4. การปรับแต่งด้วย Utilities

Utilities classes ที่ช่วยปรับแต่งตัวอักษร, การจัดวาง, และมีฟังก์ชันหลายอย่างให้ใช้ในการปรับเว็บไซต์สวยงามมากขึ้น

<p class="text-center">Centered Text</p>
<div class="bg-info text-white p-3">Info Box</div>

อธิบายจาก Code ด้านบน

  1. bg-info เป็นคลาสที่ให้พื้นหลัง (background) ขององค์ประกอบเป็นสีข้อมูล (info color) ในที่นี้จะมีสีพื้นหลังที่ถูกกำหนดเป็นสีข้อมูล (info color) ที่ Bootstrap กำหนดไว้
  2. text-white เป็นคลาสที่ให้สีของตัวอักษรเป็นสีขาว
  3. p-3 เป็น class ที่มีการ padding ขนาด 3 (padding-3) ทั้งรอบของ element

5. การใช้ JavaScript Components

Bootstrap ยังมี JavaScript components เพื่อเพิ่มความประสิทธิภาพและประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เช่น

Modal คือ ส่วนที่กดใช้แล้วจะแสดงหน้าต่างเล็ก ๆ ที่ลอยขึ้นมากลางหน้าจอเพื่อแสดงข้อมูลเพิ่มเติมในหน้าเว็บไซต์ จะเห็นได้จากการใช้ในการแสดงฟอร์ม, รายละเอียดสินค้า, หรือข้อความยืนยันต่างๆ

<!DOCTYPE html>
<html lang="en">
<head>
  <meta charset="UTF-8">
  <meta name="viewport" content="width=device-width, initial-scale=1.0">
  <link href="https://cdn.jsdelivr.net/npm/bootstrap@5.3.0/dist/css/bootstrap.min.css" rel="stylesheet">
  <title>Bootstrap Modal Example</title>
</head>
<body>

<button type="button" class="btn btn-primary" data-bs-toggle="modal" data-bs-target="#myModal">
  Open Modal
</button>

<!-- Modal -->
<div class="modal fade" id="myModal" tabindex="-1" aria-labelledby="exampleModalLabel" aria-hidden="true">
  <div class="modal-dialog">
    <div class="modal-content">
      <div class="modal-header">
        <h5 class="modal-title" id="exampleModalLabel">Modal Title</h5>
        <button type="button" class="btn-close" data-bs-dismiss="modal" aria-label="Close"></button>
      </div>
      <div class="modal-body">
        <p>This is the content of the modal.</p>
      </div>
      <div class="modal-footer">
        <button type="button" class="btn btn-secondary" data-bs-dismiss="modal">Close</button>
        <button type="button" class="btn btn-primary">Save changes</button>
      </div>
    </div>
  </div>
</div>

<script src="https://cdn.jsdelivr.net/npm/bootstrap@5.3.0/dist/js/bootstrap.bundle.min.js"></script>
</body>
</html>

หากนำ Code ข้างต้นนี้ แสดงผ่าน Browser นั้นจะมีปุ่ม Button เมื่อกดแล้วจะมี Event เกิดขึ้นคือ Pop up ที่เรากำหนดรูปแบบไว้นั่นเอง

สรุป :

บทความนี้นำเสนอการพัฒนาเว็บไซต์แบบ Responsive ที่แสดงตามขนาดของอุปกรณ์และใช้ Class ต่างๆ ที่น่าสนใจของ Bootstrap เพื่อสามารถนำไปปรับแต่งให้หน้าเว็บไซต์มีความสวยงาม ทันสมัย มากยิ่งขึ้น

อ้างอิงข้อมูลจาก :

https://getbootstrap.com

อ้างอิงรูปภาพจาก :

https://www.pexels.com/photo/person-using-a-smartphone-5082579/

Phornhathai Thanomwong

Author Phornhathai Thanomwong

ปัจจุบันกำลังศึกษาคอร์ส Front end developer ที่ BorntoDev ก.ย. 2023 - ปัจจุบัน

More posts by Phornhathai Thanomwong

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้สำหรับการติดตามทางการตลาด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นในการใช้งานเพื่อการวิเคราะห์ และ นำเสนอโปรโมชัน สินค้า รวมถึงหลักสูตรฟรี และ สิทธิพิเศษต่าง ๆ คุณสามารถเลือกปิดคุกกี้ประเภทนี้ได้โดยไม่ส่งผลต่อการทำงานหลัก เว้นแต่การนำเสนอโปรโมชันที่อาจไม่ตรงกับความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า