ลองนึกภาพตามแอดดูนะ เราตั้งใจอยากได้เว็บไซต์สักเว็บหนึ่ง ก็เลยตัดสินใจจ้างคนทำ แต่พอได้งานมาก็กลับพบว่าไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาซะเลย บางคนได้เว็บมาแต่ฟีเจอร์ใช้งานไม่ได้ บางคนก็พบว่าของที่ควรจะมีดันหายไป หรือแย่กว่านั้นคือพอจะขอแก้งานกลับโดนบอกว่านี่มันเป็นการเพิ่มงานใหม่นะ คุ้นๆ กันไหมล่ะ? 😅
ถ้าไม่อยากเจอปัญหาเหล่านี้ วันนี้แอดเลยจะมาแชร์ 8 สิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรู้ก่อนจะตัดสินใจจ้างใครทำเว็บกัน มาดูกันเลย!
สำหรับไฟล์ที่ดาวน์โหลดสามารถดูได้ท้ายบทความได้เลย !!
1. Scope และ Budget: จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของทุกโปรเจค!
รู้ไหมว่าทำไมหลายๆ คนถึงได้เว็บมาไม่ตรงใจ? ส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่ได้กำหนด Scope ที่ชัดเจนตั้งแต่แรกนั่นเอง ลองคิดดูง่ายๆ ถ้าเราไปร้านอาหารแล้วบอกแค่ว่า “เอาอาหารที่อร่อยๆ มาให้หน่อย” โดยไม่บอกว่าชอบกินอะไร แพ้อะไร หรือมีงบเท่าไหร่ รับรองว่าได้อาหารมาไม่ตรงปากแน่นอน การทำเว็บก็เช่นกัน!
แอดเปรมขอแนะนำว่า ก่อนจะเริ่มคุยกับใคร ให้เราลองนั่งเขียนรายละเอียดทุกอย่างที่อยากได้ในเว็บไซต์ออกมาก่อน ตั้งแต่ฟีเจอร์พื้นฐานยันฟีเจอร์พิเศษที่อยากได้ ต้องรองรับการใช้งานบนมือถือไหม ต้องมีระบบหลังบ้านยังไงบ้าง แล้วก็อย่าลืมคำนวณงบประมาณที่มีด้วยนะ รวมถึงงบสำรองสำหรับค่าแก้ไขและดูแลระบบในอนาคต
💡 เคล็ดลับจากแอดเปรม: แอดได้เตรียม Template SRS (Software Requirement Specification) สุดพิเศษไว้ให้ทุกคนดาวน์โหลดฟรีที่ท้ายบทความเลย ลองเอาไปใช้กันดูนะ รับรองว่าช่วยให้การกำหนด Scope ง่ายขึ้นแน่นอนคร้าบบ
2. ฟรีแลนซ์ VS บริษัท: เลือกให้ถูก ชีวิตจะสุขกว่าเยอะ! 🤝
หลายคนมักจะถามแอดเปรมว่า “แอดเปรม !! จะจ้างฟรีแลนซ์ดีหรือจ้างบริษัทดี?” คำตอบคือ… มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ เลย เหมือนกับการเลือกซื้อรถยนต์นั่นแหละ บางคนอาจจะเหมาะกับรถเล็กกะทัดรัด ขับง่าย จอดสะดวก แต่บางคนอาจจะต้องการรถใหญ่ๆ ที่บรรทุกของได้เยอะๆ
ถ้าโปรเจคของเราเป็นเว็บไซต์เล็กๆ ไม่ซับซ้อน งบประมาณจำกัด และต้องการความยืดหยุ่นสูง การจ้างฟรีแลนซ์ก็น่าจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าเป็นโปรเจคใหญ่ มีระบบซับซ้อน ต้องการการสนับสนุนระยะยาว และมีทีมงานครบวงจร การจ้างบริษัทก็จะตอบโจทย์กว่า เพราะจะมีทีมงานที่ครบถ้วนตั้งแต่ UI/UX Designer, Frontend Developer, Backend Developer ไปจนถึงทีม QA ที่จะช่วยเทสระบบให้เราด้วย
3. สร้างใหม่ VS ใช้สำเร็จรูป: ตัดสินใจให้ดี เพราะนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ
เรื่องนี้สำคัญมากๆ เลยนะ เพราะมันจะส่งผลต่อทั้งงบประมาณ ระยะเวลา และความยืดหยุ่นของเว็บไซต์เราในอนาคต ลองมาดูข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบกัน
ถ้าเราเลือกสร้างใหม่ทั้งหมด ก็จะเหมือนกับการสร้างบ้านใหม่เลย เราสามารถออกแบบทุกอย่างได้ตามใจชอบ จะเพิ่มห้องตรงไหนก็ได้ จะทำระเบียงแบบไหนก็ดี แต่แน่นอนว่าต้องใช้เวลาและงบประมาณเยอะหน่อย แต่ถ้าเลือกใช้สำเร็จรูป ก็จะเหมือนการซื้อคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว เข้าอยู่ได้เลย แต่จะดัดแปลงอะไรเยอะๆ ก็ทำได้ยากหน่อย
4. การคุยบรีฟ: จุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ถูกมองข้ามบ่อยที่สุด! 📝
เชื่อไหมว่าการคุยบรีฟนี่แหละ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราได้เว็บไซต์ในฝัน! แอดเคยเจอลูกค้าหลายคนที่บอกว่า “แค่คุยกันเฉยๆ ก็พอแหละ ไม่ต้องมีอะไรเป็นลายลักษณ์อักษรหรอก” แต่พอทำไปสักพัก ก็เริ่มมีปัญหาว่าจำไม่ได้ว่าตกลงอะไรกันไว้บ้าง 😅
สิ่งที่แอดเปรมแนะนำคือ ต้องมีสัญญาที่ชัดเจน! เปรียบเหมือนเราไปทำสัญญาเช่าบ้าน ยังต้องมีรายละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรเลย แล้วการทำเว็บที่ใช้เงินเป็นแสนจะไม่ทำสัญญาได้ยังไง? 🤔
การทำสัญญาที่ดีต้องครอบคลุมตั้งแต่เรื่องพวกแบบ
- รายละเอียดฟีเจอร์ทั้งหมดที่ต้องมี (อย่าลืมว่าถ้าไม่ได้เขียนไว้ในสัญญา เดฟก็อาจจะไม่ได้ทำให้นะ!)
- ระยะเวลาทำงานในแต่ละขั้นตอน (milestone ชัดๆ ไปเลย)
- จำนวนครั้งที่แก้ไขได้ฟรี (ป้องกันการแก้ไม่จบไม่สิ้น)
- วิธีการส่งมอบงาน (จะส่งเป็น phase หรือส่งทีเดียวจบ)
- การรับประกันหลังส่งมอบ (ถ้าเว็บมีปัญหา จะดูแลยังไง)
5. เมื่อความคาดหวังไม่ตรงกับความเป็นจริงทำยังไงดีครับ?
เคยเจอไหม สั่งชานมไข่มุกแบบในรูป แต่พอได้แก้วจริงมาเหมือนคนละอย่างเลย หรือ ผัดกระเพราที่ใส่อะไรก็ไม่รู้มาเต็มไปหมด (ถ้าใส่ถั่วฝักยาวมาให้แอดนี่แบนเลยนะ ฮ่าาาา) การทำเว็บก็เหมือนกัน บ่อยครั้งที่สิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่ได้มันไม่เหมือนกันซะทีเดียว
แอดมีเทคนิคดีๆ มาแชร์! ก่อนจะเริ่มลงมือทำจริง ให้ขอดูเรื่องพวก
- Wireframe (ภาพร่างคร่าวๆ ว่าเว็บจะมีอะไรตรงไหนบ้าง)
- Prototype (ตัวอย่างที่คลิกได้ ดูฟีเจอร์คร่าวๆ ได้)
- Design Mock-up (ภาพที่ใกล้เคียงของจริงมากที่สุด)
แล้วพอได้มาแล้ว อย่าเพิ่งรีบพยักหน้าเออออไปนะ! ลองถามตัวเองว่า “นี่คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือเปล่า?” ถ้าไม่ใช่ ก็บอกเดฟไปเลย ตอนนี้แก้ง่ายกว่าตอนทำเสร็จแล้วเป็นไหนๆ
6. ทดสอบระบบ: อย่าข้ามขั้นตอนสำคัญนี้เชียว! ⚡
หลายคนพอเห็นเว็บหน้าตาสวย ก็รีบบอก OK รีบจ่ายเงินทันที แต่แอดขอบอกเลยว่า… เดี๋ยวก่อน!
การทดสอบระบบเหมือนการขับรถทดลอง ต้องลองทุกฟังก์ชัน
- ลองกดทุกปุ่มว่าทำงานได้ไหม
- ลองกรอกข้อมูลผิดๆ ดูว่าระบบรับมือยังไง
- ลองเปิดบนมือถือ แท็บเล็ต ดูว่าใช้ง่ายไหม
- ลองทำธุรกรรมจริง (ถ้ามี) ว่าปลอดภัยไหม
ถ้าเจออะไรผิดปกติ รวบรวมเป็นลิสต์ไว้เลย แล้วส่งให้เดฟแก้ทีเดียว จะได้ไม่ต้องแก้หลายรอบ ไม่ต้องเหนื่อยกันหลายที
7. เรื่องของการแก้ไข: เข้าใจให้ตรงกันตั้งแต่แรก! 🔧
เรื่องนี้เป็นปัญหาที่แอดเปรมเจอบ่อยมาก! หลายคนสงสัยว่าทำไมขอแก้นิดเดียว เดฟถึงคิดเงินเพิ่ม?
มาทำความเข้าใจกันง่ายๆ แบบนี้
- ถ้าของที่ได้ไม่ตรงกับที่คุยไว้ในสัญญา → แก้ฟรี!
- ถ้าอยากเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่ได้คุยไว้ → คิดเงินเพิ่ม
- ถ้าแค่เปลี่ยนสี เปลี่ยนข้อความ → ส่วนใหญ่แก้ฟรี (แต่ต้องดูจำนวนครั้งด้วย)
เหมือนเราสั่งชุดสูทตัดเสร็จแล้ว
- ถ้าสูทไม่ได้ขนาด → ช่างแก้ให้ฟรี
- แต่ถ้าอยากเพิ่มกระเป๋า เปลี่ยนกระดุม → คิดเงินเพิ่มแน่นอนจริงไหม ซึ่งมันปกติมาก ๆ 55
8. Maintenance: เรื่องที่ต้องคิดถึงหลังเว็บเสร็จ
หลายคนมักจะลืมคิดถึงเรื่องนี้! เหมือนซื้อรถมาแล้วไม่ได้วางแผนเรื่องค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง เลยทีเดียว
การดูแลเว็บหลังจากเสร็จแล้วมีหลายอย่างที่ต้องคิดถึง
- ค่าโฮสติ้ง หรือ พวก Cloud รายปี (ที่อยู่ของเว็บเรา)
- ค่าโดเมนรายปี (ชื่อเว็บของเรา)
- การอัพเดทระบบความปลอดภัย
- การสำรองข้อมูล
- การแก้ไขเมื่อมีบัค หรือ อัพเดตต่าง ๆ
แอดแนะนำว่าควรคุยเรื่องนี้ให้ชัดตั้งแต่แรกเลย จะได้วางแผนงบประมาณได้ถูก ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นมากกกกก (กอไก่ล้านตัว)
สรุปท้ายบทความ 🎉
หลังจากที่เราได้เรียนรู้กันมาทั้ง 8 ข้อแล้ว แอดหวังว่าทุกคนจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการจ้างทำเว็บไซต์นะ และถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าเว็บที่อยากได้ควรมีหน้าตายังไง หรือต้องเริ่มต้นยังไงดี ทีม borntoDev ของเราก็พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยพัฒนาเว็บไซต์แบบครบวงจร ตั้งแต่โปรเจคเล็กๆ ไปจนถึงระดับองค์กรเลยนะ
เรามีแพคเกจให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ Corporates Web Development สำหรับคนที่อยากสร้างเว็บไซต์แรก มีทีมคอยดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ และ Web Application Development สำหรับคนที่ต้องการระบบที่ซับซ้อนหรืออยากต่อยอดจากระบบเดิม
สนใจปรึกษาเรื่องการทำเว็บไซต์กับเราได้แล้ววันนี้ คลิกที่นี่เลย แอดและทีมพร้อมยินดีช่วยดูแลทุกเคสนะคร้าบ
Free Download! 🎁
- Template SRS สำหรับโปรเจคเว็บไซต์ ตัวอย่างที่ 1 | ตัวอย่างที่ 2
- ตัวอย่างสัญญาจ้างทำเว็บไซต์