สำหรับเดฟสาย Back-End คงหนีไม่พ้นเรื่องของการจัดการ Database ใช่มั้ยครับ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฐานข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ SQL หรือ NoSQL ซึ่งหลัก ๆ แล้วเรามักจะมีโปรแกรมในการจัดการฐานข้อมูลประจำเครื่องอย่างถ้าใครใช้ MySQL ก็จะมี MySQL Workbench หากเป็นสาย PostgreSQL ก็จะคุ้นเคยกับ pgadmin และ MongoDB ที่เป็น NoSQL ก็จะเป็น MongoDB Compass แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเรามีเครื่องมือเดียวที่ต่อได้หมดทุกตัว แถมโปรแกรมทำงานได้ไวและฟีเจอร์ครบอีกด้วย วันนี้แอดขอแนะนำให้รู้จักโปรแกรมที่ชื่อว่า “DbGate”
DbGate เป็นเครื่องมือจัดการฐานข้อมูล Open Source ที่ทำงานได้เร็วและมีฟีเจอร์ที่ครบครัน รองรับฐานข้อมูลประเภทต่างๆ ได้หลายตัวไม่ว่า่จะเป็น MySQL, PostgreSQL, Oracle, SQL Server และ MariaDB โดยเราสามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลหลายตัว พร้อมกัน
ความเจ๋งของ DbGate ไม่ได้มีแค่เชื่อมต่อและดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมีฟีเจอร์เด็ดอีกเพียบไม่ว่าจะเป็น
Data grid with expandable columns ที่ทำให้มองเห็นข้อมูลทั้งหมดเหมือนสเปรดชีท แต่ละคอลัมน์สามารถคลิกเพื่อขยายดูข้อมูลเพิ่มเติมได้
Master/detail view แสดงความสัมพันธ์ของตารางข้อมูลทั้งตารางหลักและตารางที่มีการอ้างอิง
Form view แต่ถ้าใครไม่ชอบดูข้อมูลในรูปแบบตาราง ก็เปลี่ยนมาเป็นฟอร์มข้อมูลเหมือนโปรแกรมทั่วไปได้
Macros in table data editor เราสามารถสร้างและเรียกใช้แมโครได้โดยตรงภายในโปรแกรมได้เลย
Free table editor with macro preview สามารถแก้ไขข้อมูลในตารางได้แบบฟรีสไตล์ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้ macro โดย DbGate จะแสดงผลลัพธ์ของแมโครให้ดูก่อนสั่งรันจริง ช่วยป้องกันโอกาสผิดพลาดได้ระดับหนึ่ง
Perspective with nested data สามารถแสดงข้อมูลแบบหลายมิติได้ เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความสัมพันธ์แบบหลายระดับ
Query editor มาที่ฟีเจอร์หลักที่ขาดไม่ได้คือ ฟีเจอร์ที่ใช้เขียนและแก้ไขคิวรี (SQL) เพื่อดึงข้อมูลที่ต้องการจากฐานข้อมูล
SQL join wizard อันนี้สายที่ต้องมานั่งจอยตารางเองต้องชอบ เพราะมันคือฟีเจอร์ที่ช่วยสร้างการเชื่อมโยงตารางแบบที่เราต้องมา 0สร้างคิวรีเขียน JOIN เพื่อดึงข้อมูลจากหลายตารางเอง แต่นี่ไม่ต้องไม่ต้องเขียนคิวรีเองเลือกได้เลย
SQL Generator อีกฟีเจอร์ช่วยเพิ่มความสะดวก เพราะคำสั่งพื้นฐานเราสามารถเจนมาได้ ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
Run query on MongoDB database จากที่เราได้เห็นความสามารถเกี่ยวกับ SQL กันไป การทำงานร่วมกับ MongoDB ก็ทำได้นะ
ตัวอย่างหน้าตาคิวรีในมุม MongoDB
Query designer ต่อมาจะเป็นตัวช่วยให้เราออกแบบคิวรีด้วย visual editor ทำให้มองเห็นโครงสร้างของคิวรีได้ง่ายขึ้น
Export data เราสามารถ Export ข้อมูลได้ง่าย ๆ มีฟอร์แมตมากมายเช่น CSV, JSON, Excel
Preview of imported MS Excel file แถมตอนเอาเข้าข้อมูล ก็สามารถดูตัวอย่างข้อมูลก่อนนำเข้าไฟล์ Excel ได้ ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อน import เข้ามา
JavaScript scripting อย่างที่เรารู้เราสามารถเขียน Javascript ลงไปใน SQL ได้ใน DbGate ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ER diagram อีกฟีเจอร์ที่ไม่มีไม่ได้คือ แสดงความสัมพันธ์ของตารางข้อมูลในฐานข้อมูลในรูปแบบ ER diagram
Charts หรือจะเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นกราฟต่าง ๆ ก็สามารถทำได้ ช่วยให้อ่านผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น
Dark mode อันนี้เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์แรก ๆ ที่สายเดฟหลายคนตามหา มันเปลี่ยนเป็นธีมดำ ๆ มืด ๆ ได้ป่าววะ? คำตอบคือได้!
Command palette เราสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันต่างๆ ของ DbGate ได้แบบอีซี่ ๆ แบบใน IDE ที่เราคุ้นเคยได้
และนี่ก็เป็นฟีเจอร์เด็ด ๆ ของาเจ้าโปรแกรมจัดการ Database ที่แสนจะเร็วและฟีเจอร์เพียบ ใครสนใจสามารถลองใช้งานได้เลยที่ https://dbgate.org/download/
