Skip to main content
0
Software Development

การอ่าน Document ยังไงให้ไม่งง?

แอดขอเริ่มบทความนี้ ด้วยมีมนี้เลย เพราะเป็นภาพที่มองแล้วเราจะเห็นได้ชัดว่าการอ่าน Documentation ที่บอกมาแล้วว่าเครื่องมือหรือของที่เรากำลังใช้มันใช้ยังไง? จะเห็นได้ว่าหากเราอ่าน Documentation เราจะผ่านอุปสรรคหรือปัญหาที่ไม่จำเป็นต้องเจอ ไปได้หลายขั้นตอน ทำให้เราใช้งานเครื่องมือได้อย่างราบรื่นขึ้น ถึงแม้ตอนสุดท้ายอาจจะโดนคราดตีหน้าไปบ้างตามประสาการเขียนโค้ด

สำมือใหม่อาจจะเจอปัญหาอ่านเอกสาร Documentation แล้วรู้สึกว่ามันยาก ไม่เห็นภาพ อ่านไปสักพักแล้วต้องถือมีดเข้าป่า ไปสับสน แฮร่!!! เล่นอะไรเนี่ย

ซึ่งในบทความเดี๋ยวเรามาดูกันว่าเราจะอ่าน Docs ยังไงให้ไม่งง โดยต้องบอกว่าบทความนี้แอดได้รับแรงบันดาลใจมากจากวิดีโอเรื่อง ‘How To Read Documentations For Beginners’ ซึ่งเค้าได้อธิบายอย่างชัดเจนว่ามือใหม่จะอ่าน Docs ยังไงให้แจ่มแจ้ง

1. อย่าคิดว่าต้องอ่านทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ

อย่างแรกเลยคือ ไม่ต้องอ่านทั้งหมดเหมือนอ่านหนังสือ เพราะ เราอาจจะไม่ได้ใช้ทุกอย่างใน Library หรือเครื่องมือนั้น ๆ Docs ส่วนใหญ่เค้าออกแบบมาให้เป็น “แหล่งอ้างอิง” หมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมันหรอก เราจะต้องอ่านแบบ scan แบบไว ๆ ดูว่าเค้าพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง อันไหนจำเป็น อันไหนยังไม่ถึงเวลาจำเป็น และที่สำคัญดูสารบัญแล้วเราจะรู้ว่าควรอ่านหน้าไหนก่อนหลัง

ตัวอย่างของ Nest.js คุณคิดว่าเรื่องไหนที่ต้องอ่านก่อนครับ? คำตอบคือส่วน “Introduction” ต้องรู้ก่อนมันคืออะไร คร่าว ๆ มันทำอะไร แล้วก้าวแรก เราจะก้าวมาใช้มันยังไง? หากเราเริ่มก้าวคล่อง ๆ พอใช้งานได้แล้ว จากกดไปที่ช่องค้นหาแล้วใส่ keyword ที่เกี่ยวกับงานหรือฟังก์ชันที่เราต้องการจะทำ แล้วมันจะช่วยนำทางให้เราไปต่อได้ว่าเราต้องเรียนรู้อะไรต่อ

2. ฝึกอ่านจาก Module ที่คุ้นเคย

ต่อมาการ Docs มันดูอ่านยากเกิน ให้เราลองมองหาส่วนที่เราคุ้นเคยมากที่สุดในนั้น ดูสิว่ามีอะไรบ้าง อย่างถ้าใครทำ API ด้วย Express ต่อกับ MongoDB แล้วดันมาทำงานที่ใหม่ เค้าใช้เป็น Nest.js กัน พอเราเรียน Introduction หรือ Fundamentals เสร็จก็ลองค้นหาดูสิว่า MongoDB ใน Nest.js มันใช้ยังไง? ก็จะเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้ความรู้เก่าของเรา เอามาสร้างเป็นความรู้ใหม่ จาก Docs ที่อาจจะเข้าใจยากในช่วงแรก ๆ

3. เอกสารส่วนใหญ่มีโครงสร้างคล้ายกัน

อย่างที่เรารู้ไม่ว่า Docs ไหน ๆ ส่วนใหญ่ก็จะมีโครงสร้างคล้าย ๆ กัน ถามว่ามีอะไรบ้าง

  • Getting Started: ส่วนที่บอกว่าเริ่มต้นยังไง ติดตั้งยังไง และตัวอย่างพื้นฐานที่ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน
  • User Guide: อันนี้จะให้รายละเอียดลึกลงไปเกี่ยวกับการใช้งาน โดยอาจมีตัวอย่างหรือการเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่น ๆ ให้เราเห็นภาพมากยิ่งขึ้น
  • API Reference: เป็นส่วนที่ให้รายละเอียดของฟังก์ชัน คลาส และโมดูลต่าง ๆ ซึ่งมักจะใช้เมื่อเราต้องการรู้รายละเอียดเชิงลึกของคำสั่งหรือการใช้งานนั้น ๆ

การรู้จักโครงสร้างของ Docs ทำให้เราเข้าถึงเนื้อหาที่เราต้องการและหยิบไปใช้ได้ไวมากยิ่งขึ้น

4. ฝึกใช้งาน Document จาก Library ที่คุ้นเคย

ถ้าลองไปอ่านแล้วรู้สึกมันยังยาก? อ่าน Docs ยังไงก็รู้สึกไม่เข้าใจสักที ตรงนี้ผมขอย้ำตรงที่ “รู้สึก” นะครับ งั้นเรามาลองอ่าน Docs ที่ทำให้รู้สึกง่ายกันหน่อยดีมั้ยครับ เช่น ถ้าเราจะฝึกอ่าน Docs เราลองเริ่มจากของที่เราอาจจะเคยใช้งาน Lib หรือ Framework ที่เราใช้ทุกวันใช้จนเซียน ลองแวะกลับไปเรียนไปทบทวนจาก Docs เหล่านี้ก่อน แอดว่ามันจะทำให้เราได้ฟีลลิ่ง “อ๋อ มันประมาณนี้นี่เอง ก็ไม่ได้ยากนิ” เราก็จะเข้าใจ pattern ของการอ่าน Docs มากยิ่งขึ้น

5. ไม่ต้องกลัวที่จะใช้ Google

หลายคนอาจจะคิดว่าเห้ย ต้องใช้ตาม Docs เท่านั้น ไม่งั้นมีปัญหาแน่ หรือ ทำตาม Docs แล้วแต่ยังไม่ได้สักที ถ้าเจอปัญหานี้ อย่ากลัวที่จะไปถามพี่ Google หรือ Stack Overflow นะครับ วิธีนี้จะช่วยเราออกไปเจออะไรใหม่ ๆ ที่ใกล้เคียง และเข้าใจบริบทและอะไรหลาย ๆ อย่างมากยิ่งขึ้น

แล้วถ้าถามว่าทำไมไม่เอาเข้า ChatGPT ไปเลยทีเดียวจบ ง่ายกว่าเยอะ ไม่ต้องนั่งหาเอง ตรงนี้ก็ได้เหมือนกันครับ แต่หลายครั้ง การที่เราเรียนรู้ของใหม่ เราก็มักจะเจอปัญหา ไม่รู้เหมือนกันที่ AI ตอบมาเนี่ย มันถูก มันผิด ส่วนไหนที่ใช้ไม่ได้จริงบ้าง เพราะมันคือคำตอบที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ได้เป็นความคิดเห็น เป็นประสบการณ์จากคนที่พิมพ์ข้อความนั้น ๆ มาไว้ใน Docs หรือตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ ทำให้เราก็จะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพอสมควร แอดอยากแค่ฝากให้ระวังส่วนนี้ครับ 😊

6. ถ้าไม่มี Document ที่ดี ลองดูโค้ดเอง

อีกอย่างอย่างสุดท้ายแล้วครับ ในบางครั้ง Library บางตัวอาจไม่มี Docs ที่ครบ ๆ แต่แอดจะบอกเทคนิคให้ คือเราสามารถไปส่อง GitHub หรืออ่าน source code เพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงาน เรียกว่าไปเรียนรู้จาก source code เลยอันนี้ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่งครับผม

ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นเทคนิค การอ่าน Document แบบไม่งง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับชาวเดฟมือใหม่ทุกคนนะคร้าบบบ 🧡

Sirasit Boonklang

Author Sirasit Boonklang

More posts by Sirasit Boonklang
Close Menu

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้สำหรับการติดตามทางการตลาด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นในการใช้งานเพื่อการวิเคราะห์ และ นำเสนอโปรโมชัน สินค้า รวมถึงหลักสูตรฟรี และ สิทธิพิเศษต่าง ๆ คุณสามารถเลือกปิดคุกกี้ประเภทนี้ได้โดยไม่ส่งผลต่อการทำงานหลัก เว้นแต่การนำเสนอโปรโมชันที่อาจไม่ตรงกับความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า