Skip to main content
0

สารจากนักเขียน

พบกันอีกเช่นเคย ในวันนี้ผมจะพามาลองเขียน FullScreen Window ไว้สำหรับขยาย Video Player ของเราให้เต็มจอกันจะมีขั้นตอนอะไรบ้างมาดูกัน🧑‍💻

เขียนโดย
Chairawit Iamkhajornchai
Internship @ borntoDev

บทความนี้ตีพิมพ์ และ เผยแพร่เมื่อ 24 สิงหาคม 2566

เริ่มด้วยการสร้าง TestFullVideo.html ขึ้นมาก่อนเลย

ให้เพื่อน ๆ พิมพ์ doc จะได้โครง HTML ขึ้นมาแล้วทำตาม Code ด้านล่างได้เลยนะครับ

<!DOCTYPE html>
<html>
<head>
<style>
  body {
    margin: 0;
    padding: 0;
    background-color: #333;
    display: flex;
    justify-content: center;
    align-items: center;
    height: 100vh;
}

/* Style the fullscreen button */
#fullscreenBtn {
  position: fixed;
  top: 20px;
  right: 20px;
  z-index: 9999;
  background-color: #333;
  color: #fff;
  border: none;
  cursor: pointer;
}

/* Style the video */
video {
  width: 100%;
  height: auto;
}
</style>
</head>
<body>

ส่วนแรกผมจะทำ CSS ก่อนที่จัด Body และปุ่มกดไป FullScreen ตามด้วย video เอาไว้และเปิด <body> ขึ้นมา

<!-- Add a button to toggle fullscreen mode -->
<button id="fullscreenBtn">FullScreen Mode OFF</button>

<!-- Add a video element From Path File in same Directory -->
<video id="myVideo" controls>
 <source src="ReviewDekHor.mp4" type="video/mp4">
</video>

จากนั้นให้สร้างปุ่มสำหรับเข้า FullScreen เอาไว้ และตามด้วยการไปดึง File จาก Path Video ของเรา

อย่าลืมเช็คให้ Path ตรงกับตำแหน่ง File ของเราด้วยนะครับ

<script>
const fullscreenBtn = document.getElementById('fullscreenBtn');
const body = document.body;
const video = document.getElementById('myVideo');

fullscreenBtn.addEventListener('click', () => {
  if (!document.fullscreenElement) {
    // If no element is in fullscreen, make the body go fullscreen
    if (body.requestFullscreen) {
    body.requestFullscreen();
    } else if (body.mozRequestFullScreen) {
    body.mozRequestFullScreen();
    } else if (body.webkitRequestFullscreen) {
    body.webkitRequestFullscreen();
    } else if (body.msRequestFullscreen) {
    body.msRequestFullscreen();
    }

    fullscreenBtn.textContent = 'FullScreen Mode ON';
} else {
    // If an element is in fullscreen, exit fullscreen mode
    if (document.exitFullscreen) {
    document.exitFullscreen();
    } else if (document.mozCancelFullScreen) {
    document.mozCancelFullScreen();
    } else if (document.webkitExitFullscreen) {
    document.webkitExitFullscreen();
    } else if (document.msExitFullscreen) {
    document.msExitFullscreen();
    }
    fullscreenBtn.textContent = 'FullScreen Mode OFF';
  }
});
</script>
</body>
</html>

จากนั้นมาเข้าส่วน  กันโดยในที่นี้ผมจะประกาศตัวแปร 3 ตัวด้วยกันคือ

1.fullScreenBtn เก็บปุ่มกด

2.body ส่วน body หลัก

3.video ดึงไฟล์มาแสดง Video

โดยเริ่มจากส่วนปุ่มกดที่ผมจะตั้งเงื่อนไขไว้โดยเมื่อกดปุ่มก็จะเรียกใช้คำสั่ง เพื่อแสดง Video แบบเต็มจอ และเปลี่ยน Text จาก FullScreen Mode OFFFullScreen Mode ON

จากนั้นก็ดักเงื่อนไขนอกเหนือจากนั้นด้วยว่าหากกดที่ปุ่มเดิมอีกรอบก็จะออกจาก FullScreen Mode และเปลี่ยน Text เป็น FullScreen Mode ON → FullScreen Mode OFF

โดยโค้ดทั้งหมดก็จะหน้าตาเป็นแบบนี้เลย

<!DOCTYPE html>
<html>
<head>
<style>
  body {
    margin: 0;
    padding: 0;
    background-color: #333;
    display: flex;
    justify-content: center;
    align-items: center;
    height: 100vh;
}

/* Style the fullscreen button */
#fullscreenBtn {
  position: fixed;
  top: 20px;
  right: 20px;
  z-index: 9999;
  background-color: #333;
  color: #fff;
  border: none;
  cursor: pointer;
}

/* Style the video */
video {
  width: 100%;
  height: auto;
}
</style>
</head>
<body>

<!-- Add a button to toggle fullscreen mode -->
<button id="fullscreenBtn">FullScreen Mode OFF</button>

<!-- Add a video element From Path File in same Directory -->
<video id="myVideo" controls>
 <source src="ReviewDekHor.mp4" type="video/mp4">
</video>
<script>
const fullscreenBtn = document.getElementById('fullscreenBtn');
const body = document.body;
const video = document.getElementById('myVideo');

fullscreenBtn.addEventListener('click', () => {
  if (!document.fullscreenElement) {
    // If no element is in fullscreen, make the body go fullscreen
    if (body.requestFullscreen) {
    body.requestFullscreen();
    } else if (body.mozRequestFullScreen) {
    body.mozRequestFullScreen();
    } else if (body.webkitRequestFullscreen) {
    body.webkitRequestFullscreen();
    } else if (body.msRequestFullscreen) {
    body.msRequestFullscreen();
    }

    fullscreenBtn.textContent = 'FullScreen Mode ON';
} else {
    // If an element is in fullscreen, exit fullscreen mode
    if (document.exitFullscreen) {
    document.exitFullscreen();
    } else if (document.mozCancelFullScreen) {
    document.mozCancelFullScreen();
    } else if (document.webkitExitFullscreen) {
    document.webkitExitFullscreen();
    } else if (document.msExitFullscreen) {
    document.msExitFullscreen();
    }
    fullscreenBtn.textContent = 'FullScreen Mode OFF';
  }
});
</script>
</body>
</html>

เสร็จแล้วให้เพื่อน ๆ ลอง Run ผลลัพธ์ทดสอบดูก็จะได้หน้าตาแบบนี้เลย

เมื่อลองกดปุ่มขวาบน ข้อความที่แสดงก็จะเปลี่ยนไปด้วยเพื่อบอกเราว่าตอนนี้กำลังเปิดแบบเต็มจออยู่

เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเล่น Video Player แบบ FullScreen ได้แล้วเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ดูดีฝุด ๆ ไปเลย😁

สุดท้ายนี้ถ้าเพื่อน ๆ ชื่นชอบบทความนี้และคิดว่าเป็นประโยชน์ก็อย่าลืมกด ❤ ให้กัน เพื่อที่จะได้ไม่พลาดความรู้ใหม่ ๆ ที่ส่งตรงถึงที่ให้กันแบบฟรี ๆ ไปเลย และในครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรอีกอย่าลืมติดตามกันไว้ ในตอนนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนละค้าบ ฟิ่วว🛴…
.

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ🙏

.

🦖 borntoDev – สร้างการเรียนรู้ที่ดี สำหรับสายไอทีในทุกวัน

ระบบฝึกทักษะ การเขียนโปรแกรม

ที่พร้อมตรวจผลงานคุณ 24 ชั่วโมง

  • โจทย์ปัญหากว่า 200 ข้อ ที่รอท้าทายคุณอยู่
  • รองรับ 9 ภาษาโปรแกรมหลัก ไม่ว่าจะ Java, Python, C ก็เขียนได้
  • ใช้งานได้ฟรี ! ครบ 20 ข้อขึ้นไป รับ Certificate ไปเลย !!
เข้าใช้งานระบบ DevLab ฟรี !เรียนรู้เพิ่มเติม

เรียนรู้ไอที “อัพสกิลเขียนโปรแกรม” จากตัวจริง
ปั้นให้คุณเป็น คนสายไอทีระดับมืออาชีพ

BorntoDev

Author BorntoDev

BorntoDev Co., Ltd.

More posts by BorntoDev

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้สำหรับการติดตามทางการตลาด

    ประเภทของคุกกี้ที่มีความจำเป็นในการใช้งานเพื่อการวิเคราะห์ และ นำเสนอโปรโมชัน สินค้า รวมถึงหลักสูตรฟรี และ สิทธิพิเศษต่าง ๆ คุณสามารถเลือกปิดคุกกี้ประเภทนี้ได้โดยไม่ส่งผลต่อการทำงานหลัก เว้นแต่การนำเสนอโปรโมชันที่อาจไม่ตรงกับความต้องการ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า