สังเกตว่ามีความคล้ายกับ 2 คำสั่งก่อนหน้า แต่ ๆ ๆ มันจะมีความแตกต่างตรงที่เราจะไม่ใส่ทุกอย่างที่เราจะ Insert ไปตรง ๆ (ซึ่งจริง ๆ เราจะใส่ไปก็ได้) แต่เราจะใช้เป็น Tuple สร้างข้อมูลไล่ลำดับมา และ ใส่ข้อมูลตามลำดับ เช่นในตัวอย่างที่ เราจะ INSERT พนักงานชื่อ Jazz และ ที่อยู่เป็น Papiyong Kook Kook ก็จะใส่ใน Tuple ที่ชื่อว่า val ได้เลย
และ สุดท้ายโค้ดที่เพิ่มเข้ามาจะมีส่วน commit() และ ฟังก์ชันในการแสดงผลจำนวน Row หรือ แถวที่มีในตารางนั้น ๆ นั่นเอง ถ้าหากเราใส่ข้อมูลใหม่ลงในฐานข้อมูลเรียบร้อย จำนวนสมาชิกในแถวก็เพิ่มขึ้นนั่นเอง
อ๋ออ ! แล้วก็สังเกตด้วยนะว่าบรรทัดแรก ๆ ตรงส่วนที่ประกาศ Object ชื่อ connection จะมีเพิ่มฟืลด์ database ลงไปด้วย ในที่นี้เราสร้าง database ชื่อ OurDB ไว้ก็จะใช้ชื่อนี้ แต่ถ้า Database เป็นชื่ออื่น ให้ใช้เป็นชื่อที่เราต้องการเข้าถึง รวมถึงชื่อ Table ในคำสั่งของ SQL Command ก่อน Execute ด้วยนะ